สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 23-29 สิงหาคม 2562

 

ข้าว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2562/63
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เห็นชอบแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2562/63 และมติที่ประชุม นบข. ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เห็นชอบในหลักการตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2562/63 ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับติดตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 การดำเนินงานประกอบด้วย 5 ช่วง ดังนี้
ช่วงที่ 1 การกำหนดอุปสงค์ อุปทานข้าว ได้กำหนดอุปสงค์ 32.48 ล้านตันข้าวเปลือก อุปทาน 34.16 ล้านตันข้าวเปลือก
ช่วงที่ 2 ช่วงการผลิตข้าว ได้แก่
1) การกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว เป้าหมาย รอบที่ 1 จำนวน 58.99 ล้านไร่
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าวแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 และ รอบที่ 2 จำนวน 13.81 ล้านไร่
2) การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป้าหมาย รอบที่ 1 จำนวน 4.00 ล้านครัวเรือน และ รอบที่ 2 จำนวน 0.30 ล้านครัวเรือน
3) การจัดการปัจจัยการผลิต ได้แก่ โครงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ดี และควบคุมค่าเช่าที่นา
4) การปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ การจัดรูปที่ดินและปรับระดับพื้นที่นา
5) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ได้แก่ (1) โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่
(นาแปลงใหญ่) (2) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข43 (3) โครงการส่งเสริมระบบเกษตรแบบแม่นยำสูง (4) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ (5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ (6) โครงการรักษาระดับปริมาณการผลิตและคุณภาพข้าวหอมมะลิ (7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
(8) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าวไปเป็นพืชอื่น (Zoning by Agri-Map) (9) โครงการส่งเสริม
การปลูกพืชหลากหลาย (10) โครงการปลูกพืชปุ๋ยสด และ (11) โครงการประกันภัยพืชผล
ช่วงที่ 3 ช่วงการเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว ได้แก่ (1) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
รถเกี่ยวนวดข้าว และ (2) โครงการยกระดับมาตรฐานโรงสี กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงตลาดข้าวนาแปลงใหญ่
ช่วงที่ 4 ช่วงการตลาดในประเทศ ได้แก่ (1) โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร (2) โครงการรณรงค์บริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ พ.ศ. 2563-2565
(3) โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมและสร้างการรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของการบริโภคผลผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว
(4) โครงการรณรงค์บริโภคข้าวสาร Q และข้าวพันธุ์ กข43 ปีการผลิต 2561/62 (5) โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว
และปรับปรุงคุณภาพข้าว (6) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร (7) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการในการเก็บสต็อก และ (8) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก
ช่วงที่ 5 ช่วงการตลาดต่างประเทศ ได้แก่ (1) การจัดหาและเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ (2) การส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ข้าว ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมข้าว (3) การส่งเสริมพัฒนาการค้าสินค้ามาตรฐานและปกป้องคุ้มครองเครื่องหมายการค้า/เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย และ (4) การประชาสัมพันธ์การบริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ของไทยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 16,238 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 16,087 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.94
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,953 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,959 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.07
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 35,170 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 35,050 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.34
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,750 บาท ราคาลดลงจากตันละ 11,950 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.07
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,247 ดอลลาร์สหรัฐฯ (37,953 บาท/ตัน)
ราคาสูงขึ้นจากตันละ 1,209 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,953 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.14 และสูงขึ้นในรูปเงินบาท
ตันละ 1,000 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 431 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,118 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 429 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,112 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.45 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 6 บาท
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 423 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,874 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 419 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,807 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.95 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 67 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 434 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,209 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 436 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,326 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.46 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 117 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 30.4358

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
เวียดนาม
ภาวะราคาข้าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อ่อนตัวลงเล็กน้อยท่ามกลางความต้องการที่ลดลง โดยเฉพาะจากประเทศจีนและฟิลิปปินส์ ราคาข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 335-340 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 335-345 ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยวงการค้าระบุว่า ช่วงนี้ผู้ซื้อจากฟิลิปปินส์ลดการสั่งซื้อข้าวจากเวียดนามเพื่อชะลอการนำเข้าข้าว เพราะต้องการช่วยเหลือเกษตรกรของฟิลิปปินส์ที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ขณะที่
ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีการโหลดสินค้าเพื่อเตรียมส่งมอบไปยังประเทศผู้ซื้อในแถบแอฟริกาประมาณ 23,000 ตัน
กระทรวงเกษตร (The Ministry of Agriculture and Rural Development; MARD) คาดว่าเกษตรกรในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงจะเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกในฤดูการผลิตฤดูร้อน (summer-autumn rice crop) เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 150,000 ตัน ซึ่งปีที่ผ่านมาเก็บเกี่ยวข้าวได้ประมาณ 1.57 ล้านตัน และขณะนี้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวแล้วประมาณ 2 ใน 3 ของผลผลิตทั้งหมด และคาดว่าจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน
ด้านภาวะราคาข้าวในปีนี้ อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการข้าวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีนลดลง
          ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
 
กัมพูชา
รัฐบาลกัมพูชายอมรับว่าอัตราภาษีข้าวของสหภาพยุโรป (the European Union; EU) สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรกัมพูชาจำนวนมากกว่าครึ่งล้าน หลังยอดส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรปลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ส่งออก 93,000 ตัน ขณะที่สหภาพยุโรปกำลังทบทวนสิทธิการเข้าถึงการค้าแบบปลอดภาษีของกัมพูชาจากแนวโน้มสิทธิมนุษยชนของประเทศ หลังเคยกำหนดอัตราภาษีเป็นเวลา 3 ปี เพื่อปกป้องผู้ผลิตของสหภาพยุโรป เช่น อิตาลี หลังปริมาณการนำเข้าข้าวจากสองประเทศเพิ่มสูงขึ้น
สหพันธ์ข้าวกัมพูชา (The Cambodian Rice Federation; CRF) เปิดเผยว่า การตั้งกำแพงภาษีดังกล่าว
มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกษตรกรกว่า 500,000 ครอบครัว ที่ใช้ชีวิตจากการทำนาข้าวหอมและข้าวเมล็ดยาว ทั้งที่ ความจริงแล้วข้าวสายพันธุ์เหล่านี้เป็นสายพันธุ์ข้าวเฉพาะตามภูมิศาสตร์ และไม่ได้แข่งขันโดยตรงกับข้าวที่ปลูกใน สหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีเผยว่า รัฐบาลจีนจะช่วยเหลือกัมพูชาหากสหภาพยุโรปถอนสิทธิโครงการ Everything But Arms (EBA) ซึ่งจีนยังยินดีที่จะนำเข้าข้าวกัมพูชาเพิ่มเป็น 400,000 ตัน
          ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
 
เมียนมาร์
กระทรวงพาณิชย์ (Ministry of Commerce) รายงานว่า ในช่วง 10 เดือนแรก (ตุลาคม 2561-กรกฎาคม 2562) ของปีงบประมาณ 2561/62 (ตุลาคม 2561-กันยายน 2562) เมียนมาร์ส่งออกข้าว (ข้าวสาร และข้าวหัก) แล้วประมาณ 1.97 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าส่งออกในปีนี้ลดลงประมาณ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปริมาณลดลงประมาณ 820,000 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ด้านสหพันธ์ข้าวเมียนมาร์ (Myanmar Rice Federation; MRF) รายงานว่า ในช่วงประมาณ 10 เดือนแรก (ตุลาคม 2561-กรกฎาคม 2562) ของปีงบประมาณ 2561/62 (ตุลาคม 2561-กันยายน 2562) เมียนมาร์ส่งออกข้าวหักประมาณ 400,689 ตัน มูลค่ากว่า 107.147 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยัง 36 ประเทศ โดยประเทศผู้นำเข้าข้าวหักรายใหญ่ที่สุดของเมียนมาร์ คือ เบลเยี่ยม ซึ่งนำเข้าข้าวหักแล้วประมาณ 190,000 ตัน มูลค่ากว่า 50.547 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นร้อยละ 47 ของการส่งออกข้าวหักทั้งหมด ขณะเดียวกันมีการส่งออกไปยังอินโดนีเซีย ประมาณ 68,000 ตัน มูลค่ากว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีน ประมาณ 25,000 ตัน มูลค่ากว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนเธอร์แลนด์ ประมาณ 23,000 ตัน มูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ประมาณ 20,000 ตัน มูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการส่งออกข้าวผ่านทางแนวชายแดนไปยังจีน ประมาณ 29,000 ตัน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ส่งออกปริมาณ 26,000 ตัน โดยในปีงบประมาณ 2560/61 เมียนมาร์ส่งออกข้าวประมาณ 3.6 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นระดับการส่งออกที่สูงที่สุดในรอบ 50 ปี
          ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย


กราฟราคาที่เกษตรกรขายได้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และราคาขายส่งตลาด กทม. ข้าวสารเจ้า 5%
 
 


ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ 
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.24 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 7.53 ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.85 และราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.66 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 5.76 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.74
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 9.13 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 9.17 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.44 และราคาขายส่งไซโลรับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.38 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.31 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.84
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 307.40 ดอลลาร์สหรัฐ (9,344 บาท/ตัน) ลดลงจากตันละ 308.40 ดอลลาร์สหรัฐ (9,426 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.32 และลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 82 บาท
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนกันยายน 2562 ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 359.44 เซนต์ (4,362บาท/ตัน) ลดลงจากบุชเชลละ 364.20 เซนต์ (4,446บาท/ตัน)  ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.31 และลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 84 บาท


มันสำปะหลัง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2562 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.70 ล้านไร่ ผลผลิต 31.43 ล้านตัน ผลผลลิตต่อไร่ 3.62 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2561
ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.33 ล้านไร่ ผลผลิต 29.37 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.53 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ สูงขึ้นร้อยละ 4.44 ร้อยละ 7.01 และร้อยละ 2.55 ตามลำดับ โดยเดือนสิงหาคม 2562
คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 0.67 ล้านตัน (ร้อยละ 2.12 ของผลผลิตทั้งหมด)
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2562 จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2562 ปริมาณ 21.06 ล้านตัน (ร้อยละ 67 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
เป็นช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และหัวมันสำปะหลังมีเชื้อแป้งค่อนข้างต่ำ
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1.74 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1.73 บาทในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.58
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.96 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 4.61 บาท
ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 7.59
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.60 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 6.61 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.15
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 13.15 ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 238 ดอลลาร์สหรัฐฯ (7,234 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน (7,275 บาทต่อตัน)     
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 450 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,678 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน (13,754 บาทต่อตัน)


 


ปาล์มน้ำมัน

 


อ้อยและน้ำตาล

 

 
ถั่วเหลือง

 

 
ยางพารา


 

 
สับปะรด


 

 
ถั่วเขียว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.82 บาท ลดลงจากราคากิโลกรัมละ 23.42 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.256
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดเล็กคละ และถั่วเขียวผิวดำคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 27.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 28.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี        
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 1,019.40 ดอลลาร์สหรัฐ (30.99 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ
1,013.40 ดอลลาร์สหรัฐ (30.97 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.59 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 920.00 ดอลลาร์สหรัฐ (27.96 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 915.00 ดอลลาร์สหรัฐ (27.97 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.55 แต่ลดลงในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.01 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 953.20 ดอลลาร์สหรัฐ (28.97 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 948.00 ดอลลาร์สหรัฐ (28.98 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.55 แต่ลดลงในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.01 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 556.20 ดอลลาร์สหรัฐ (16.91 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 553.00 ดอลลาร์สหรัฐ (16.90 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.58 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.01 บาท
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 1,078.60 ดอลลาร์สหรัฐ (32.78 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 1,073.00 ดอลลาร์สหรัฐ (32.80 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.52 แต่ลดลงในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท

 
 

 
ถั่วลิสง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ความเคลื่อนไหวของราคาประจำสัปดาห์ มีดังนี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกแห้ง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 45.47 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 66.05 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อย 31.16
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.78 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 43.80 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อย 41.14
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดพิเศษ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดธรรมดา สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

 

 
ฝ้าย
 
          1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
          ราคาที่เกษตรกรขายได้
          ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
     
    ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures)
          ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนตุลาคม 2562 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 58.14 (กิโลกรัมละ 39.78 บาท) ลดลงจากปอนด์ละ 59.43 (กิโลกรัมละ 40.63 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.17 และลดลงในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 0.85 บาท
 
 

 
ไหม

ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,720 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1,696 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.42
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,396 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1,361 บาท  ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 2.57
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 843 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 845 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.24

 
 

 
ปศุสัตว์
 
สุกร
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ  
สถานการณ์ตลาดสุกรสัปดาห์นี้ ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงนี้มีฝนตกในหลายพื้นที่ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปบริโภคอาหารและสัตว์น้ำตามธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลงเล็กน้อย แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ  68.33 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 69.42 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.57 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 65.33 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 67.49 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 68.68 บาท  และภาคใต้ กิโลกรัมละ 73.07 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้  ตัวละ 1,600 บาท (บวกลบ 64 บาท) ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา  
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 64.50 บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
ภาวะตลาดไก่เนื้อสัปดาห์นี้ ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ค่อนข้างทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคเริ่มมีมากขึ้น ขณะที่ผลผลิตไก่เนื้อออกสู่ตลาดในภาวะปกติ แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 37.04 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 36.89 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.41 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 35.00 บาท  ภาคกลาง กิโลกรัมละ 36.93 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 40.60 บาท  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 14.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ  36.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 49.00 บาท ทรงตัวสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ   
สัปดาห์นี้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา  เนื่องจากผลจากก่อนหน้านี้ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และเกษตรกรผู้เลี้ยงไข่ไก่ ได้ร่วมมือกันปรับผลผลิตไข่ไก่ทั้งระบบให้สมดุลกับความต้องการบริโภค ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 287 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 283 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.41 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 297 บาท  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 282 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 287 บาท  และภาคใต้ไม่มีรายงาน  ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 28.00  บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ  331  บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ไข่เป็ด

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 334 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 340 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 341 บาท ภาคกลาง ร้อยฟองละ 317 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ 355 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 350 บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   

 
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 88.33 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 88.50 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.19 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 89.93 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 82.89 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 88.40 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 100.00 บาท

 
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 67.48 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 68.18 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.03 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 89.70 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 63.20 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงานราคา

 
 


 
ประมง

1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 23 – 29 สิงหาคม 2562) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3-4 ตัว/กก.)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 37.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 35.70 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.30 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 82.53 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 84.71 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.18 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.3 กุ้งกุลาดำ
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัมและราคา ณ ตลาดทะเลไทย     จ.สมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 134.81 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 144.90 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 10.09 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 130.00 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 136.67 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 6.67 บาท
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง)
ราคาปลาทูสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 78.44 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 91.36 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 12.92 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 90.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง)
ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ย กิโลกรัมละ 125.00 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 158.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 33.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 260.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น
ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.28 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 8.04 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.76 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% เฉลี่ยสัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา