นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ด้วยการพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ด้านการผลิต การจัดการสินค้าเกษตรอินทรีย์ และมีความสนใจเข้าสู่ระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร และรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร รวมทั้งคงความปลอดภัยต่อสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค โดยกิจกรรมพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเกษตรกร 5,000 ราย และจากการติดตามผลการดำเนินงาน พบว่า สามารถพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ด้านการผลิตและการจัดการสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้ครบตามเป้าหมาย 5,000 ราย (ร้อยละ100 ของเป้าหมาย) และมีเกษตรกรผ่านการประเมินแปลงเบื้องต้น 3,206 ราย (ร้อยละ 64.12 ของเป้าหมาย 500 ราย) ที่พร้อมก้าวเข้าสู่กระบวนการรับรองตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์

           ในการนี้ สศก. โดยศูนย์ประเมินผล ได้ลงพื้นที่ติดตามตัวอย่างกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และได้มีการพัฒนาการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่อง ณ แปลงผักชุมชนบ้านสวนป่านของวิสาหกิจชุมชนผลิตพืชอาหารปลอดภัยบ้านสวนป่าน ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งถือเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอีกแห่งหนึ่ง ที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตพืชผักที่ปลอดภัย ใส่ใจถึงสุขภาพที่ดีของตนเองและชุมชน โดยกลุ่มได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนมาตั้งแต่ปี 2562 มีนางสำราญ กุลคง เป็นประธานกลุ่ม พร้อมสมาชิกกว่า 20 ราย ที่ได้ริเริ่มในการจัดทำแปลงผักชุมชนบ้านสวนป่าน เพื่อผลิตพืชผักที่ปลอดภัยสำหรับสมาชิก ครอบครัว และเพื่อนบ้านในชุมชนได้มีผักไว้บริโภคที่ปลอดจากสารเคมีและดีต่อสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก  และหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมผลักดันให้กลุ่มได้ยกระดับการผลิตเข้าสู่การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์  อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกกลุ่มหลังจากการทำนาและปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 9 ราย ที่มีความพร้อมมาช่วยกันผลิตตามแปลงที่จัดสรรของชุมชน และพัฒนาจนได้รับการรับรองแหล่งผลิตพืชอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตร (มกษ. 9000)

          ปัจจุบันแปลงผักชุมชนบ้านสวนป่าน มีพื้นที่เพาะปลูกรวม 4 ไร่ ที่เน้นปลูกผักสวนครัว อาทิ ผักกาดขาว กระหล่ำปลี ผักบุ้ง คะน้า ต้นหอม ผักชี และพริกขี้หนู มีการสลับปลูกผักหลากหลายหมุนเวียนตลอดปี สามารถรวบรวมผลผลิตนำไปจำหน่ายยังตลาดชุมชน และตลาดนัดวันศุกร์ของโรงพยาบาลวัดโบสถ์ รวมทั้งจำหน่ายให้แก่  โรงครัวของโรงพยาบาลวัดโบสถ์ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ช่วยสร้างรายได้เสริมให้แก่สมาชิกกลุ่มประมาณ 1,000 - 3,000 บาทต่อราย ทำให้กลุ่มมีรายได้ในส่วนของการจำหน่ายผักจากแปลงผักชุมชนประมาณ 10,000 - 12,000 บาทต่อเดือน หรือ 120,000 - 144,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ ยังไม่รวมการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อที่แปลง และประโยชน์จากการที่สมาชิกกลุ่มได้นำผลผลิตที่ปลอดภัยไปบริโภคในครัวเรือนของตนเองอีกด้วย

          สำหรับผู้ที่สนใจแนวทางการรวมกลุ่มทำแปลงผักชุมชนของวิสาหกิจชุมชนผลิตพืชอาหารปลอดภัย  บ้านสวนป่าน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่นางสำราญ กุลคง ประธานกลุ่ม โทร. 061 684 6264 วิสาหกิจชุมชนผลิตพืชอาหารปลอดภัยบ้านสวนป่าน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กรมส่งสริมการเกษตร ปรับโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน ในกิจกรรมพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ เป็นกิจกรรมพัฒนาสินค้าเกษตรแปลงใหญ่สู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อปรับเพิ่มผลิตภาพ  การผลิตในการเตรียมความพร้อมเกษตรกรเพื่อเข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เป้าหมายจำนวน 300 ราย ซึ่ง สศก.   จะยังคงบูรณาการร่วมและติดตามการประเมินผลให้ทราบเป็นระยะต่อไป