นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง สถานการณ์มันฝรั่ง ปี 2568 (ปีเพาะปลูก 2567/2568) ข้อมูลพยากรณ์ ณ มีนาคม 2568 คาดว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกมันฝรั่งในปี 2568 รวม 40,455 ไร่ ลดลงจากปี 2567 ที่มีพื้นที่เพาะปลูก 41,347 ไร่ (ลดลง 892 ไร่ หรือร้อยละ 2.16) ซึ่งการลดลงของพื้นที่เพาะปลูกส่วนหนึ่งมาจากเกษตรกรบางรายในแหล่งผลิตหลัก เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และตาก เผชิญปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าหัวพันธุ์ ค่าแรงงาน และปัญหาหัวพันธุ์ที่มีอัตราการงอกต่ำ ทำให้ผลผลิตบางส่วนไม่ได้คุณภาพและเกิดโรคได้ง่าย ส่งผลให้เกษตรกรบางรายปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ข้าวโพดหวานและพืชผัก หรือบางรายเลือกปล่อยพื้นที่ว่างแทน
         สำหรับปริมาณผลผลิตมันฝรั่ง คาดว่าปริมาณรวม 120,854 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 119,501 ตัน (เพิ่มขึ้น 1,353 ตัน หรือร้อยละ 1.13) โดยผลผลิตต่อไร่ 2,987 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้ผลผลิต 2,890 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 97 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 3.36) เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย โดยเฉพาะอุณหภูมิที่หนาวเย็นต่อเนื่องและปริมาณน้ำที่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ผลผลิตมันฝรั่งจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2568 และจะออกสูงสุดในเดือนมีนาคม ประมาณ 57,635 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 47.69 ของผลผลิตทั้งหมด
          ด้านราคามันฝรั่งพันธุ์โรงงานที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 13.23 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องมาตลอด จากปี 2566 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 12.13 บาทต่อกิโลกรัม ปี 2565 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11.98 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ปี 2564 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11.42 บาทต่อกิโลกรัม และสำหรับปี 2568 ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม – มีนาคม 2568) พบว่า ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 13.24 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่ผ่านมา (มกราคม – มีนาคม 2567) ที่ราคาเฉลี่ย 13.21 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากผู้ประกอบการแปรรูปมีความต้องการใช้มันฝรั่งอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับแผนการขยายการส่งออก ส่งผลให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ดี
            ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมการผลิตมันฝรั่งภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางสำคัญในการสนับสนุนเกษตรกร อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มันฝรั่งให้ทนทานต่อโรคและเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย การลดต้นทุนการผลิต โดยลดการพึ่งพาหัวพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งโอกาสของเกษตรกรไทยในอุตสาหกรรมมันฝรั่ง แม้ว่าจะมีความท้าทายในด้านต้นทุนการผลิตและปัจจัยการเพาะปลูก แต่มันฝรั่งไทยยังคงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปที่ยังคงมีความต้องการสูง รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเร่งขับเคลื่อนโครงการพัฒนาสายพันธุ์และการจัดการเพาะปลูก เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตมันฝรั่งที่มีคุณภาพ ลดต้นทุน และสร้างรายได้ที่มั่นคงต่อไป สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลสถานการณ์การผลิตมันฝรั่งของไทยตลอดจนพืชเศรษฐกิจอื่นๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารสนเทศการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โทร. 0 2561 2870 หรืออีเมล prcai@oae.go.th