- ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
- ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
- รายละเอียดภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
กตน.กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มตรวจสอบภายใน หัวข้อ “ แนวทางปฏิบัติตามกฏกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563
โดยในสาระสำคัญของเรื่องดังกล่าว กำหนดให้ส่วนราชการต้องดำเนินการ 2 เรื่อง ดังนี้
1) ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการ SMEs ตามรายการสินค้าหรือบริการที่มีรายชื่อตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ขึ้นบัญชีไว้โดยให้ใช้เงินงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างพัสดุดังกล่าวไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการ SMEs
2) ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่ผลิตภายในประเทศ
กรณีการจัดซื้อให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อพัสดุที่ผลิตในประเทศไทย
กรณีงานจ้างที่มิใช่งานก่อสร้างให้หน่วยงานของรัฐกำหนดในขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะใช้ในงานจ้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุที่จะใช้ในงานจ้าง”
กรณี การจ้างก่อสร้างให้หน่วยงานของรัฐกำหนดรายละเอียดในแบบรูปรายการงานก่อสร้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุที่จะใช้ในงานก่อสร้าง โดยใช้เหล็กหรือเหล็กกล้าที่เป็นพัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศก่อน ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณเหล็กหรือเหล็กกล้าที่ใช้ในงานก่อสร้างทั้งหมดในครั้งนั้น หากการใช้เหล็กหรือเหล็กกล้าแล้วยังไม่ครบร้อยละของมูลค่าที่กำหนดให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศให้หน่วยงานของรัฐใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศประเภทอื่นเพื่อให้ครบร้อยละ 60”
หลักการดังกล่าวข้างต้น ใช้บังคับสำหรับการจัดซื้อ การจัดจ้างก่อสร้าง การจัดจ้างที่มิใช่งานก่อสร้าง และการเช่าสังหาริมทรัพย์
แต่ไม่ใช้กับการจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง
1) ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการ SMEs ตามรายการสินค้าหรือบริการที่มีรายชื่อตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ขึ้นบัญชีไว้โดยให้ใช้เงินงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างพัสดุดังกล่าวไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการ SMEs
2) ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่ผลิตภายในประเทศ
กรณีการจัดซื้อให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อพัสดุที่ผลิตในประเทศไทย
กรณีงานจ้างที่มิใช่งานก่อสร้างให้หน่วยงานของรัฐกำหนดในขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะใช้ในงานจ้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุที่จะใช้ในงานจ้าง”
กรณี การจ้างก่อสร้างให้หน่วยงานของรัฐกำหนดรายละเอียดในแบบรูปรายการงานก่อสร้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุที่จะใช้ในงานก่อสร้าง โดยใช้เหล็กหรือเหล็กกล้าที่เป็นพัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศก่อน ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณเหล็กหรือเหล็กกล้าที่ใช้ในงานก่อสร้างทั้งหมดในครั้งนั้น หากการใช้เหล็กหรือเหล็กกล้าแล้วยังไม่ครบร้อยละของมูลค่าที่กำหนดให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศให้หน่วยงานของรัฐใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศประเภทอื่นเพื่อให้ครบร้อยละ 60”
หลักการดังกล่าวข้างต้น ใช้บังคับสำหรับการจัดซื้อ การจัดจ้างก่อสร้าง การจัดจ้างที่มิใช่งานก่อสร้าง และการเช่าสังหาริมทรัพย์
แต่ไม่ใช้กับการจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=268252643713645&set=a.1103359983536236