- ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
- ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
- รายละเอียดภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร
สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 24-30 ตุลาคม 2565
ข้าว
1.สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 มาตรการสินค้าข้าว
1) โครงการสำคัญภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2565/66 ดังนี้
1.1) ด้านการผลิต
(1) การจัดการปัจจัยการผลิต ได้แก่ โครงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว และมาตรการควบคุม
ค่าเช่าที่นา
(2) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ได้แก่ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน (ส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวอินทรีย์) และการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการผลิตข้าวยั่งยืน
(3) การควบคุมปริมาณการผลิตข้าว ได้แก่ โครงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรตามแผนที่การเกษตรเชิงรุก (Zoning by Agri-Map) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยเสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2566 โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบสหกรณ์ แผนการถ่ายทอดความรู้การผลิตพืชหลังนาและการใช้น้ำในการผลิตพืชอย่างมีประสิทธิภาพ และแผนการผลิตพันธุ์พืชและปัจจัยการผลิต
(4) การพัฒนาชาวนา ได้แก่ โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer)
(5) การวิจัยและพัฒนา ได้แก่ การปรับปรุงพันธุ์ข้าวเจ้าพื้นนุ่มและพื้นแข็ง การปรับปรุงพันธุ๋ข้าวหอมไทย การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโภชนาการสูง และการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเหนียว
(6) การประกันภัยพืชผล ได้แก่ โครงการประกันภัยข้าวนาปี
(7) การส่งเสริมการสร้างยุ้งฉางให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรทั่วประเทศ (รัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3)
1.2) ด้านการตลาด
(1) การพัฒนาตลาดสินค้าข้าว ได้แก่ โครงการส่งเสริมการพัฒนาระบบตลาดภายในสำหรับสินค้าเกษตร และโครงการรณรงค์บริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
(2) การชะลอผลผลิตออกสู่ตลาด ได้แก่ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
(3) การจัดหาและเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ ได้แก่ โครงการกระชับความสัมพันธ์และรณรงค์สร้างการรับรู้ในศักยภาพข้าวไทยเพื่อขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ และโครงการปกป้องและแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า
(4) การส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าว และนวัตกรรมข้าว ได้แก่ โครงการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย โครงการส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวอินทรีย์ไทย และโครงการเสริมสร้างศักยภาพสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยเพื่อการต่อยอดเชิงพาณิชย์
2) มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ดังนี้
2.1) โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 โดยกำหนดชนิดข้าว ราคา และปริมาณประกันรายได้ (ณ ราคาความชื้นไม่เกิน 15%) ดังนี้ (1) ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน (2) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน (3) ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน (4) ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และ (5) ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
2.2) มาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ประกอบด้วย
3 โครงการ ได้แก่
(1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในเขตพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ เพื่อรักษาราคาข้าวเปลือกให้มีเสถียรภาพ
โดยให้มีการเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อชะลอผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เป้าหมายจำนวน 2 ล้านตันข้าวเปลือก วงเงินสินเชื่อต่อตัน จำแนกเป็น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,000 บาทข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 9,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 5,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 7,300 บาท และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ตันละ 8,600 บาท รวมทั้งเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางตนเอง จะได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกในอัตราตันละ 1,500 บาท สำหรับสถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับในอัตราตันละ 1,000 บาท และเกษตรกรผู้ขายข้าวเปลือก ได้รับในอัตราตันละ 500 บาท
(2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2564/65โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกจำหน่าย และ/หรือเพื่อการแปรรูป วงเงินสินเชื่อเป้าหมาย 15,000 ล้านบาท
คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 4 ต่อปี โดยสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยให้สถาบันเกษตรกรร้อยละ 3 ต่อปี
(3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2564/65 ผู้ประกอบการค้าข้าวรับซื้อข้าวเปลือกเพื่อเก็บสต็อก เป้าหมาย 4 ล้านตันข้าวเปลือก โดยสามารถรับซื้อจากเกษตรกร
ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 - 31 มีนาคม 2565 (ภาคใต้ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2565) และเก็บสต็อกในรูปข้าวเปลือกและข้าวสาร ระยะเวลาการเก็บสต็อกอย่างน้อย 60 - 180 วัน (2 - 6 เดือน) นับแต่วันที่รับซื้อ โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3
2.3) โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65
ธ.ก.ส. ดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดต้นทุนการผลิต ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 14,328 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 14,171 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.11
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 9,207 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 9,121 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.94
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 32,050 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 14,700 บาท ราคาลดลงจากตันละ 14,710 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.07
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 904 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,921 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้น
จากตันละ 873 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,111 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.55 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 810 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 426 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15,985 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 429 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,271 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.70 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 286 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 428 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,060 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 432 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,385 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.93 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 325 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 37.5233 บาท
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
ญี่ปุ่น: ความต้องการข้าวในญี่ปุ่นตกต่ำ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น เร่งหามาตรการรับมือ
กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น ประกาศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ถึงความต้องการข้าวที่เป็นอาหารหลักในปี 2566 (กรกฎาคม 2566 - มิถุนายน 2567) อยู่ที่ 6.8 ล้านตัน ซึ่งน้อยกว่าปริมาณการผลิตในปี 2565 ถึงร้อยละ
2-3 และนับเป็นสถิติที่ต่ำสุดที่เคยมีมา สาเหตุนอกจากจำนวนประชากรที่ลดลง และการเลิกบริโภคข้าวแล้วยังเนื่องมาจากความหลากหลายของอาหาร ซึ่งคาดว่าปริมาณการบริโภคข้าวจะลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
สถิตินี้ถูกเปิดเผยในการประชุมคณะอนุกรรมการอาหารของสภานโยบายอาหาร การเกษตร และนโยบายชนบทที่จัดขึ้นโดยได้ประมาณการความต้องการข้าวที่ผลิตในปี 2565 ไว้ที่ 6.91 - 6.97 ล้านตัน และประมาณการความต้องการในปี 2566 จะน้อยลงกว่าปี 2565 ประมาณ 110,000 - 170,000 ตัน นอกจากนี้ยังได้คาดการณ์ปริมาณการผลิตข้าวในปี 2566 ว่าจะมีปริมาณ 6.69 ล้านตัน ซึ่งน้อยกว่าปริมาณคาดการณ์การผลิตของปี 2565 ประมาณร้อยละ 0.1
จากสถิติ พบว่าความต้องการข้าวในญี่ปุ่นลดลงประมาณ 100,000 ตันต่อปี ทำให้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น เริ่มสนับสนุนให้ผู้ผลิตเปลี่ยนการปลูกจากข้าวที่เป็นอาหารหลักมาเป็นข้าวอาหารสัตว์และข้าวสาลี ซึ่งในปี 2565 มีพื้นที่ปลูกข้าวที่เป็นอาหารหลัก 1,251,000 เฮกตาร์ ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับพื้นที่การผลิตในปี 2564 และพื้นที่ปลูกข้าวอาหารสัตว์ปรับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 142,000 เฮกตาร์ อย่างไรก็ตามผู้เกี่ยวข้องยังยืนยันที่จะส่งเสริมและสนับสนุนและแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ที่มา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 9.69 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 9.56 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.36 และราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5% สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.84 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 7.68 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.08
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 12.30 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 12.25 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.41 ส่วนราคาขายส่งไซโลรับซื้อสัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 328.00 ดอลลาร์สหรัฐ (12,352.00 บาท/ตัน) สูงขึ้นจากตันละ 327.80 ดอลลาร์สหรัฐ (12,433.00 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.06 แต่ลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 81.00 บาท
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนธันวาคม 2565 ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกัน ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 683.00 เซนต์ (10,240.00 บาท/ตัน) สูงขึ้นจากบุชเชลละ 682.00 เซนต์ (10,300.00 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.15 แต่ลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 60.00 บาท
มันสำปะหลัง
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2566 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – กันยายน 2566) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 10.127 ล้านไร่ ผลผลิต 34.948 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.451 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 9.922 ล้านไร่ ผลผลิต 34.007 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.427 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.47 ร้อยละ 2.77 และร้อยละ 0.70 ตามลำดับ โดยเดือนตุลาคม 2565 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 1.47 ล้านตัน (ร้อยละ 4.20 ของผลผลิตทั้งหมด)
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2566 จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ปริมาณ 20.60 ล้านตัน (ร้อยละ 58.95 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
เกิดสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่เร่งเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังก่อนครบอายุ สำหรับบางพื้นที่ไม่สามารถเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังได้ ส่งผลให้
หัวมันสำปะหลังเน่า หัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่เข้าสู่โรงแป้งมันสำปะหลัง
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.60 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 2.55 บาท ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 1.96
ราคามันเส้นสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.83 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ8.91 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 8.93 บาท ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 0.22
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 16.90 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 16.94 บาท ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 0.24
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 263 ดอลลาร์สหรัฐฯ (9,990 บาทต่อตัน) ราคาลดลงจากเฉลี่ยตันละ 264 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,060 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 0.38
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 483 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,370 บาทต่อตัน) ราคาลดลงจากเฉลี่ยตันละ 484 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,450 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 0.21
ปาล์มน้ำมัน
อ้อยและน้ำตาล
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
ไม่มีรายงาน
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
- Datagro คาดการณ์ว่าผลผลิตอ้อยปี 2566/2567 ของภาคกลาง-ใต้ของบราซิล สามารถฟื้นตัวเป็น
575-590 ล้านตัน ซึ่งผลิตเป็นน้ำตาลได้ 36.0–38.5 ล้านตัน และคาดว่าผลผลิตอ้อยอาจจะมากกว่า 600 ล้านตัน ทั้งนี้ Datagro คาดว่าผลผลิตอ้อยในปี 2565/2566 ภาคกลาง - ใต้ของบราซิลจะอยู่ที่ 542 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 33.3 ล้านตัน และเอทานอล 29.3 พันล้านลิตรตามลำดับ สำหรับภาคเหนือ - ตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล คาดว่าจะมีผลผลิตอ้อย 58 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 3.7 ล้านตัน และเอทานอล 2.1 พันล้านลิตรตามลำดับ
- กรรมาธิการอ้อยอินเดีย กล่าวว่า โรงงานน้ำตาลบางแห่งในเมืองปูเนของรัฐมหาราษฏระ เริ่มหีบอ้อยในกลางเดือนตุลาคม แต่อาจล่าช้าเนื่องจากพื้นที่ปลูกเป็นดินโคลนจากสภาพอากาศที่เปียกชื้น โดยคาดว่าจะเริ่มหีบอ้อยเข้าโรงงานได้เร็วขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งโรงงานน้ำตาลอื่น ๆ อีกหลายแห่งในรัฐจะเริ่มหีบอ้อยในวันที่ 10 พฤศจิกายน ทั้งนี้ในรัฐอุตตรประเทศ โรงงานน้ำตาลบางแห่งจะเริ่มหีบอ้อยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
575-590 ล้านตัน ซึ่งผลิตเป็นน้ำตาลได้ 36.0–38.5 ล้านตัน และคาดว่าผลผลิตอ้อยอาจจะมากกว่า 600 ล้านตัน ทั้งนี้ Datagro คาดว่าผลผลิตอ้อยในปี 2565/2566 ภาคกลาง - ใต้ของบราซิลจะอยู่ที่ 542 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 33.3 ล้านตัน และเอทานอล 29.3 พันล้านลิตรตามลำดับ สำหรับภาคเหนือ - ตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล คาดว่าจะมีผลผลิตอ้อย 58 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 3.7 ล้านตัน และเอทานอล 2.1 พันล้านลิตรตามลำดับ
- กรรมาธิการอ้อยอินเดีย กล่าวว่า โรงงานน้ำตาลบางแห่งในเมืองปูเนของรัฐมหาราษฏระ เริ่มหีบอ้อยในกลางเดือนตุลาคม แต่อาจล่าช้าเนื่องจากพื้นที่ปลูกเป็นดินโคลนจากสภาพอากาศที่เปียกชื้น โดยคาดว่าจะเริ่มหีบอ้อยเข้าโรงงานได้เร็วขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งโรงงานน้ำตาลอื่น ๆ อีกหลายแห่งในรัฐจะเริ่มหีบอ้อยในวันที่ 10 พฤศจิกายน ทั้งนี้ในรัฐอุตตรประเทศ โรงงานน้ำตาลบางแห่งจะเริ่มหีบอ้อยในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
ถั่วเหลือง
1. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วเหลืองชนิดคละสัปดาห์นี้กิโลกรัมละ 18.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 18.00 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 2.78
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งถั่วเหลืองสกัดน้ำมันสัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
2. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
ราคาในตลาดต่างประเทศ (ตลาดชิคาโก)
ราคาซื้อขายล่วงหน้าเมล็ดถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 1,381.08 เซนต์ (19.32 บาท/กก.) ลดลงจากบุชเชลละ 1,383.28 เซนต์ (19.49 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.16
ราคาซื้อขายล่วงหน้ากากถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 414.76 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15.79 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 409.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15.69 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.37
ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันถั่วเหลืองสัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 72.33 เซนต์ (60.71 บาท/กก.) สูงขึ้นจากปอนด์ละ 69.63 เซนต์ (58.85 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 3.88
1. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วเหลืองชนิดคละสัปดาห์นี้กิโลกรัมละ 18.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 18.00 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 2.78
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งถั่วเหลืองสกัดน้ำมันสัปดาห์นี้ ไม่มีรายงานราคา
2. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
ราคาในตลาดต่างประเทศ (ตลาดชิคาโก)
ราคาซื้อขายล่วงหน้าเมล็ดถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 1,381.08 เซนต์ (19.32 บาท/กก.) ลดลงจากบุชเชลละ 1,383.28 เซนต์ (19.49 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.16
ราคาซื้อขายล่วงหน้ากากถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 414.76 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15.79 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 409.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15.69 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.37
ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันถั่วเหลืองสัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 72.33 เซนต์ (60.71 บาท/กก.) สูงขึ้นจากปอนด์ละ 69.63 เซนต์ (58.85 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 3.88
ยางพารา
ถั่วเขียว
ถั่วลิสง
ฝ้าย
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้
ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ ไม่มีการรายงานราคา
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures)
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนธันวาคม 2565 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 75.93 เซนต์(กิโลกรัมละ 63.74 บาท) ลดลงจากปอนด์ละ 80.04 เซนต์ (กิโลกรัมละ 67.67 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 5.13 (สูงขึ้นในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 3.93 บาท)
ไหม
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,810 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,897 บาท คิดเป็นร้อยละ 4.62 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,394 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,468 บาทคิดเป็นร้อยละ 5.04 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 985 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 985 บาท คิดเป็นร้อยละ 2.26 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ปศุสัตว์
สุกร
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
ภาวะตลาดสุกรสัปดาห์นี้ ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตเนื้อสุกรที่ออกสู่ตลาดมีสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 103.88 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 103.58 คิดเป็นร้อยละ 0.29 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 98.58 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 96.83 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 107.59 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 103.88 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 3,600 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.50 บาท ลดลงจาก กิโลกรัมละ 102.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 1.47 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคสอดรับกับผลผลิตที่ออกสู่ตลาด แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 45.22 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 45.28 บาทคิดเป็นร้อยละ 0.13 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 42.00 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 45.69 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 44.16 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 19.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 45.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 3.30 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.63 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 59.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.63 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สถานการณ์ตลาดไข่ไก่สัปดาห์นี้ ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 346 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 328 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 326 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 358 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 352 บาท ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 28.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 3.92 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 389 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 388 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.29 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 391 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 402 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 364 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 425 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 4.55 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 99.38 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 99.17 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.22 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 98.51 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 100.37 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 92.28 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 108.64 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 81.04 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 79.14 บาท คิดเป็นร้อยละ 2.39 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 98.65 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 78.97 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงาน
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
ภาวะตลาดสุกรสัปดาห์นี้ ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตเนื้อสุกรที่ออกสู่ตลาดมีสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 103.88 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 103.58 คิดเป็นร้อยละ 0.29 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 98.58 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 96.83 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 107.59 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 103.88 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 3,600 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 100.50 บาท ลดลงจาก กิโลกรัมละ 102.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 1.47 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคสอดรับกับผลผลิตที่ออกสู่ตลาด แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 45.22 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 45.28 บาทคิดเป็นร้อยละ 0.13 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 42.00 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 45.69 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 44.16 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 19.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 45.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 3.30 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.63 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 59.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.63 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สถานการณ์ตลาดไข่ไก่สัปดาห์นี้ ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 346 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 328 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 326 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 358 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 352 บาท ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 28.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 3.92 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไข่เป็ด
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 389 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 388 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.29 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 391 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 402 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 364 บาท และภาคใต้ร้อยฟองละ 425 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 4.55 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 99.38 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 99.17 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.22 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 98.51 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 100.37 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 92.28 บาท และภาคใต้ กิโลกรัมละ 108.64 บาท
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 81.04 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 79.14 บาท คิดเป็นร้อยละ 2.39 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 98.65 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 78.97 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงาน
ประมง
สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
1. การผลิต
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 24 – 30 ตุลาคม 2565) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2. การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3 - 4 ตัว/กก.)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.30 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 60.63 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.33 บาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการบริโภคลดลง
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 82.45 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 79.64 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.81 บาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.3 กุ้งกุลาดำ
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัมและราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 136.01 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 126.38 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 9.63 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 139.17 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 133.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 6.17 บาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.75 บาท บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น
ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.85 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาปลาป่นขายส่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ปลาป่นชนิดโปรตีน 60% ขึ้นไป ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 39.60 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.40 บาท และปลาป่น
ชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 34.60 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.40 บาท
1. การผลิต
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 24 – 30 ตุลาคม 2565) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2. การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3 - 4 ตัว/กก.)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.30 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 60.63 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.33 บาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการบริโภคลดลง
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 82.45 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 79.64 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.81 บาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.3 กุ้งกุลาดำ
ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัมและราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 136.01 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 126.38 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 9.63 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 139.17 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 133.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 6.17 บาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.75 บาท บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง)
ราคาที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น
ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.85 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาปลาป่นขายส่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ปลาป่นชนิดโปรตีน 60% ขึ้นไป ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 39.60 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.40 บาท และปลาป่น
ชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 35.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 34.60 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.40 บาท