รมว.ธรรมนัส เปิดงาน “นวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร” ขับเคลื่อนนโยบาย 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ปั้นโมเดลต้นแบบ อ.แม่แตงสู่เมืองหลวงถั่วเหลืองของไทย พร้อมมอบโล่รางวัล ‘นักปลูกถั่วเหลืองมือทอง’ ประจำปี 2566 เป็นครั้งแรกของประเทศ

ข่าวที่ 121/2566  วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566
รมว.ธรรมนัส เปิดงาน “นวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร”
ขับเคลื่อนนโยบาย 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ปั้นโมเดลต้นแบบ อ.แม่แตงสู่เมืองหลวงถั่วเหลืองของไทย พร้อมมอบโล่รางวัล ‘นักปลูกถั่วเหลืองมือทอง’ ประจำปี 2566 เป็นครั้งแรกของประเทศ
          ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่มอบนโยบายและพบปะเกษตรกร พร้อมลงแปลงสาธิตการปลูกถั่วเหลืองด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ มหาวิทยาลัยแม้โจ้ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาและเกษตรกรได้มีความรู้ความเข้าใจถึงศักยภาพของถั่วเหลืองไทยและต่อยอดร่วมกันต่อไป
           จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน “นวัตกรรมเสริมแกร่งถั่วเหลืองไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร” พร้อมมอบโล่รางวัลนักปลูกถั่วเหลืองมือทอง ให้แก่เกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จในการปลูกถั่วเหลืองให้ได้ผลผลิตสูง ณ นิคมสหกรณ์แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยกิจกรรมภายในงาน ได้มีการออกบูธนิทรรศการ การเสวนา และการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมมอบปัจจัยการผลิต โดยนำร่องพื้นที่อำเภอแม่แตง เป็นโมเดลต้นแบบ ยกระดับพืชเศรษฐกิจถั่วเหลืองไทย ผลักดันสู่ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สอดคล้องนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ของรัฐบาล อีกทั้งยังมีการจัดเสวนา เรื่อง “โมเดลเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการปลูกถั่วเหลือง” โดย รศ.ดร.อุทัย คันโธ นักวิชาการอิสระและเกษตรกรที่ได้รับรางวัลนักปั้นถั่วเหลืองมือทองด้วย
             ทั้งนี้ ถั่วเหลืองนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่สามารถผลิตหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นใช้สกัดน้ำมัน แปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร หรือผลิตอาหารสัตว์ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการ อีกทั้งถั่วเหลืองเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำเพื่อการเกษตรไม่มาก หรือนอกเขตชลประทาน ที่สำคัญถั่วเหลืองยังช่วยบำรุงดิน เพิ่มธาตุอาหารในดิน ลดการใช้ปุ๋ยในการปลูกพืชฤดูถัดไป แต่ปัจจุบันประเทศไทยกลับสามารถผลิตถั่วเหลืองได้เพียง 2 - 3 หมื่นตันต่อปี และยังได้ผลผลผลิตต่อไร่ต่ำ ทั้งที่มีความต้องการใช้ถั่วเหลืองมากถึง 3.2 ล้านตันต่อปี จึงทำให้ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้ามากถึง 99% กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมกับสมาคมการค้าผู้ผลิตอาหารจากถั่วเหลืองไทย สมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาส่งเสริมผลผลิตถั่วเหลืองให้ได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น จนสามารถเพิ่มผลผลิตจาก 267 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มเป็น 300 - 400 กิโลกรัม/ไร่ เป็นผลสำเร็จ
             โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบโล่รางวัลนักปลูกถั่วเหลืองมือทอง ประจำปี 2566 ให้แก่เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการปลูกถั่วเหลืองเป็นปีแรก โดยมีเกษตรกรที่ได้รับรางวัล จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ อันดับ 1 นายสุทิน แสงมณี เกษตรกรจากหมู่บ้านสันป่ายาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 492 กก./ไร่ อันดับ 2 นายเจน เตวิน จากหมู่บ้านสันป่าตึง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 487 กก./ไร่ อันดับ 3 นายสงัด เตวิน จากหมู่บ้านสันป่าตึง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 464 กก./ไร่ และ รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ นายบุญทา มณี จากหมู่บ้านหนองบัวหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 449 กก./ไร่ และ นายสมบูรณ์ สุริยา จากหมู่บ้านสันป่ายาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 429 กก./ไร่
             “ขอแสดงความยินดีและขอชื่นชมเกษตรกรที่ได้รับรางวัลเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองมือทอง ตลอดจนขอชื่นชมเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในพื้นที่อำเภอแม่แตง และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ทุกๆ ท่าน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลังจากนี้ ในพื้นที่อำเภอแม่แตง เราจะมีทั้งเกษตรกรต้นแบบและพื้นที่โมเดลในการผลิตถั่วเหลืองที่มีคุณภาพและผลผลิตต่อไร่ที่สูง เชื่อว่างานในวันนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เกษตรกรสนใจและหันมาปลูกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น ได้ผลผลิตที่สูง เกษตรกรมีรายได้ดี มีความกินดีอยู่ดี และประเทศไทยสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าถั่วเหลืองได้   และนับจากวันนี้ พื้นที่ดังกล่าวจะเปรียบเสมือนเมืองหลวงถั่วเหลืองของประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายที่  ผมจะผลักดันสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ด้วยการสร้าง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูงต่อไป” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
            ด้านนายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กล่าวว่า ที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ร่วมกับทางสมาคมการค้าผู้ผลิตอาหารจากถั่วเหลืองไทย และสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว ดำเนินการโครงการนำร่องโมเดลเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนการปลูกถั่วเหลืองเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะเน้นส่งเสริมถั่วเหลืองพันธุ์เชียงใหม่ 60 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ผู้ประกอบการนิยมใช้ โดยผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าว ในพื้นที่อำเภอแม่ริม และอำเภอ  แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการนำร่องดังกล่าวจำนวน 26 ราย พบว่า สามารถส่งเสริมเกษตรกรปลูกถั่วเหลืองให้ได้ผลผลิตต่อไร่เกิน 400 กิโลกรัม จำนวน 12 ราย และได้ผลผลิตต่อไร่เกิน 300 กิโลกรัม จำนวน 12 ราย ซึ่งมากกว่าผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 267 กิโลกรัมต่อไร่ และถ้าผลผลิตเพิ่มขึ้นไร่ละ 300 - 400 กิโลกรัม เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสุทธิ หรือ กำไร ประมาณไร่ละ 3,500 - 4,700 บาท ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนสุทธิของข้าวเหนียว
            การจัดงานในครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์และส่งเสริมถึงโมเดลการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้ในการปลูกถั่วเหลืองในพื้นที่ตนเอง และเพื่อเพิ่มวัตถุดิบป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม ปูทางลดการนำเข้า และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยพื้นที่อำเภอแม่แตงและอำเภอแม่ริมแห่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น เป็นพื้นที่นำร่อง และเป็นโมเดลต้นแบบในการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จะร่วมมือกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ  เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการฯ ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในระยะต่อไป 
 
************************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร